สมรรถนะครูและบุคคลากรทางการศึกษา
สมรรถนะ หรือ competency มีความหมายรวม
ๆ ว่าความสามารถ ขีดความสามารถหรือสมรรถภาพ มักใช้กับคนและเครื่องจักร เครื่องยนต์
เช่น ครูคนนี้มีความสามารถสูงในเรื่องการเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือผู้บริหารยุคนี้วัดกันที่ขีดความสามารถ
หรือ รถยนต์คันนี้มีสมรรถนะเยี่ยมเรื่องเกาะถนน หรือ ตาลุงคนนั้นหมดสมรรถภาพทางเพศ
เป็นต้น ดังนั้นสมรรถนะของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน
จึงหมายถึงพฤติกรรมที่แสดงออกต่อการทำงานและเป็นตัวบ่งชี้ความสำเร็จของงานในองค์กรต่าง
ๆ ได้ดีกว่าระดับการศึกษาหรือเชาวน์ปัญญาของบุคคล ทำให้การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
หรือทรัพยากรบุคคลในปัจจุบันจึงเน้นการพัฒนาสมรรถนะเป็นฐาน ( Competency Based Human
Resource Development ) ฉะนั้นความสำเร็จของการสร้างผู้นำการเปลี่ยนแปลงของกระทรวงศึกษาธิการ
จะต้องเริ่มต้นจากการพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาเพื่อให้บุคลากรเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือปรับเปลี่ยนวิธีการทำงาน
ซึ่งขณะนี้ทาง ก.คศ.ได้นำเอา สมรรถนะ
มาเป็นตัวตั้งในการประเมินครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ขอมีหรือขอเลื่อนตำแหน่งวิทยฐานะ
ซึ่งสมรรถนะที่ใช้ในการประเมินการปฏิบัติงานของครูและบุคลากรทางการศึกษานั้น มี
3 ประเภทคือ
1. สมรรถนะหลัก
2. สมรรถนะประจำสายงาน
3. วินัย คุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ
(มาตรฐานวิชาชีพของคุรุสภา 10+ 9 ข้อ)
สมรรถนะหลัก(Core Competency) เป็นสมรรถนะร่วมที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้องมีเพราะเป็นสมรรถนะพื้นฐานของบุคลากรที่จะส่งผลให้การปฏิบัติงานในทุกตำแหน่งหน้าที่ประสบผลสำเร็จประกอบด้วย 4
สมรรถนะย่อย คือ
1. การมุ่งผลสัมฤทธิ์
หมายถึงการปฏิบัติงานด้วยความมุ่งมั่น เพื่อให้งานสำเร็จ ถูกต้องสมบูรณ์
มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ในการทำงานและพัฒนาผลงานให้มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง
2. การบริการที่ดี หมายถึงความตั้งใจที่จะปรับปรุงระบบบริการให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้ผู้รับบริการ
เช่น นักเรียน ครู
ผู้ปกครองพึงพอใจ
3. การพัฒนาตนเอง หมายถึง
การศึกษาค้นคว้าหาความรู้เพิ่มเติมอยู่เสมอ
พร้อมกับติดตามศึกษาองค์ความรู้และเทคโนโลยีใหม่
ๆ ในวงวิชาการและวิชาชีพ ทั้งนี้เพื่อพัฒนาตนเองและวิชาชีพ
4. การทำงานเป็นทีม หมายถึงความร่วมมือร่วมใจ สนับสนุน ส่งเสริม
ช่วยเหลือ ให้กำลังใจแก่เพื่อนร่วมงาน มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้และมีภาวะผู้นำ-ผู้ตามที่ดี
สมรรถนะประจำสายงาน(Functional Competency) หมายถึง สมรรถนะเฉพาะที่เกี่ยวกับการปฏิบัติงานของบุคลากรแต่ละตำแหน่ง
เช่น ผู้บริหาร ครูและ ศึกษานิเทศก์
ทำให้สามารถปฏิบัติงานในสายงานนั้น
ๆได้สำเร็จตามเป้าหมายซึ่งสมรรถนะประจำสายงานของครูนั้นประกอบด้วย 5
สมรรถนะ คือ
1. การจัดการเรียนรู้ หมายถึงความรู้
ความสามารถในการสร้างและพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษา ความรู้ลึกเรื่องเนื้อหาสาระ
เทคนิคกระบวนการจัดการเรียนรู้
การสร้าง การเลือก การใช้สื่อ
แหล่งเรียนรู้และนวัตกรรมทางการศึกษา
ตลอดจนการวัดผลและประเมินผลการจัดการเรียนรู้
2. การพัฒนาผู้เรียน หมายถึง
ความสามารถในการปลูกฝังคุณลักษณะอันพึงประสงค์แก่ผู้เรียน ทั้งคุณธรรม
จริยธรรม ทักษะชีวิต สุขภาพพลานามัย ความเป็นประชาธิปไตย ความเป็นไทย รวมไปถึงการดูแลช่วยเหลือนักเรียน
3. การบริหารจัดการชั้นเรียน หมายถึงความสามารถในการกำกับดูแลชั้นเรียน สร้างบรรยากาศในการจัดการเรียนรู้ จัดทำข้อมูลสารสนเทศประจำชั้นและประจำวิชา
4. การวิเคราะห์
การสังเคราะห์ การวิจัย คือความสามารถในการคิดแยกแยะ
ทำความเข้าใจในประเด็นต่าง ๆแล้ว สรุปเป็นกฏเกณฑ์หลักการ สามารถรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ
เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน
5. การสร้างความร่วมมือกับชุมชน หมายถึง
การมีส่วนร่วมกับกิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน เพื่อดึงชุมชนให้เข้ามาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ
ของโรงเรียน ทั้งนี้
เพื่อให้เกิดการสนับสนุน ส่งเสริม ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ทั้งสมรรถนะหลักและสมรรถนะประจำสายงาน
ปัจจุบันได้ถูกนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการประเมินครูและบุคลากรทางการศึกษาและในอนาคตอีกไม่นานนี้ครูและบุคลากรทางการศึกษาจะต้องได้รับการประเมินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งสมรรถนะ คือ สมรรถนะเฉพาะสาขาวิชา เช่น
ครูวิทยาศาสตร์ ครูคณิตศาสตร์ ครูการงานอาชีพ ฯ จะมีสมรรถนะเฉพาะที่แตกต่างกัน การประเมินก็จะต่างกันด้วย ซึ่งขณะนี้
ก.คศ.ได้จัดทำแล้วกำลังรอพิจารณาอนุมัติ
สมรรถนะจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนต้องได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและจริงจัง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราต้องประเมินตนเองก่อนว่า เรามีจุดเด่น จุดด้อยในสมรรถนะใด ต้องการจะพัฒนาอย่างไร โดยการจัดทำเป็นแผนพัฒนาตนเองหรือ ID – PLAN (Individual Plan) ทั้งระยะสั้น (1 ปี)
ระยะยาว (3 ปี)
เพื่อเสนอต่อผู้บังคับบัญชาให้รับทราบและขอรับการสนับสนุน
และเมื่อใดก็ตามถ้าครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคนในองค์กรมีสมรรถนะในด้านต่าง
ๆ สมบูรณ์ ครบถ้วนแล้ว องค์กรนั้นจะเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงได้อย่างแน่นอน
แหล่งข้อมูล:ระวีวรรณ
โพธิ์วังและคณะ.รวมบทความการพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา.นครปฐม:เพชรเกษมการพิมพ์, 2549...... อ่านต่อได้ที่: https://www.gotoknow.org/posts/200808
สมรรถนะครูและบุคคลากรทางการศึกษา (.pdf)
แบบทดสอบสมรรถนะวิชาชีพ (.exe สำหรับคอมพิวเตอร์)
แนวข้อสอบสมรรถนะวิชาชีพ
1.แนวคิดเกี่ยวกับสมรรถนะของ McCelland มาจากแนวคิดทฤษฎีของใคร
ก
Masslow
ข.
W. Taylor
ค.
Freud
ง.
john B. Watson
ตอบ
ข.
W. Taylor
2.
บิดาแห่งสมรรถนะ คือ
ก.
Masslow
ข.
McCelland
ค.
Freud
ง.
john B. Watson
ตอบ
ข.
McCelland
3. สมรรถนะ (Competency) มีที่มาจากข้อใดบ้าง
ก.
องค์ความรู้และทักษะต่างๆ
ข. บทบาทที่แสดงต่อสังคม
ค.แรงผลักดันเบื้องลึก
ง.ถูกทุกข้อ
ตอบ
ง.ถูกทุกข้อ
4. สมรรถนะ ส่วนใด ที่ยากต่อการพัฒนา
ก. อุปนิสัย
ข. ทักษะ
ค. ภาพลักษณ์ภายนอก
ง. บทบาทที่แสดงออกทางสังคม
ตอบ
ก. อุปนิสัย
5. สมรรถนะใช้ทำนายสิ่งใดได้
ก. ลักษณะของผลงาน
ข.
ผลของการปฏิบัติงาน
ค.
ความเข้าใจต่องาน
ง.
ข้อ ก และ ข้อ ค
ตอบ
ข.
ผลของการปฏิบัติงาน
6.
สมรรถนะมีองค์ประกอบที่สำคัญในข้อใด
ก. ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะส่วนบุคล
ข. ความรู้ การมุ่งผลสัมฤทธิ์ ทักษะ
ค. การบริหารที่ดี ความรู้ ทักษะ
ง. ความรู้ คุณลักษณะส่วนบุคล การบริหารที่ดี
ตอบ
ก. ความรู้ ทักษะ คุณลักษณะส่วนบุคล
7. ข้อใดที่ ไม่ใช่ สมรรถนะหลัก
ก. การมุ่งผลสัมฤทธิ์
ข. การพัฒนาตนเอง
ค. การพัฒนาผู้เรียน
ง. การทำงานเป็นทีม
ตอบ
ค. การพัฒนาผู้เรียน
8. ข้อใด ไม่ใช่ สมรรถนะประจำสายงานของครู
ก. ภาวะผู้นำครู
ข. การมุ่งมั่นผลสัมฤทธิ์
ค. การบริหารจัดการชั้นเรียน
ง. การบริหารจัดการหลัดสูตรและการจัดการเรียนรู้
ตอบ
ข. การมุ่งมั่นผลสัมฤทธิ์
9. ตามแนวคิด โมเดลภูเขาน้ำแข็ง ส่วนใดที่อยู่เหนือน้ำ
ก.
องค์ความรู้และทักษะต่างๆ
ข.
การแสดงออก
ค.
อุปนิสัย
ง.
แรงผลักดันเบื้องลึก
ตอบ
ก.
องค์ความรู้และทักษะต่างๆ
10.
ข้อใดเป็นประโยชน์ของการประเมินสมรรถนะสำหรับตนเอง
ก. เป็นการตรวจสอบความสามารถของตนเอง
ข.
เป็นข้อมูลสำหรับพัฒนาตนเอง
ค.
ใช้เพื่อจัดทำแผนพัฒนาตนเอง
ง.
ถูกทุกข้อ
ตอบ
ง.
ถูกทุกข้อ
11. สมรรถนะหลักที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้ประเมินครูมีกี่สมรรถนะ
ก. 4
ข. 5
ค. 6
ง. 7
ตอบ ข. 5
12. สมรรถนะประจำสายงาน
ที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้ประเมินครูมีกี่สมรรถนะ
ก. 4
ข. 5
ค. 6
ง. 7
ตอบ ค. 6
13. สมรรถนะหลักและสมรรถนะประจำสายงานของครูรวมกันเท่ากับข้อใด
ก. 10
ข. 11
ค. 12
ง. 13
ตอบ ข. 11
14. คำที่มีความหมายเดียวกันกับสมรรถนะคือข้อใด
ก. ศักยภาพ
ข. ประสิทธิภาพ
ค. คุณภาพ
ง. ประสิทธิผล
ตอบ ก. ศักยภาพ
15.
สมรรถนะที่สอดคล้องกับหลัก PDCA คือ
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
16.
มีความสามารถในการวางแผน การกำหนดเป้าหมาย การวิเคราะห์
สังเคราะห์ภารกิจงาน เป็นตัวบ่งชี้ ตามสมรรถนะใด
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
17.
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และสร้างเครือข่าย เป็นตัวบ่งชี้ตามสมรรถนะใด
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ก. พัฒนาตนเอง
18.
มีวินัย และความรับผิดชอบในวิชาชีพ เป็นตัวบ่งชี้ตามสมรรถนะใด
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
19.
การประพฤติปฏิบัติตน เป็นแบบอย่างที่ดี เป็นตัวบ่งชี้ตามสมรรถนะใด
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
20.
ความรักและศรัทธาในวิชาชีพ เป็นตัวบ่งชี้ตามสมรรถนะใด
ก. พัฒนาตนเอง
ข. ทำงานเป็นทีม
ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ง. การมุ่งผลสัมฤทธิ์ในการปฏิบัติงาน
ตอบ ค. จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชีพครู
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น